First Class การบินไทย Thai Airways 747 BKK-Sydney Review
รีวิว ที่นั่งและการบริการชั้น 1 การบินไทย กรุงเทพ - ซิดนี่ย์ TG475
Review Thai Airways First class Boeing 747 (Bangkok-Sydney)
รีวิวที่นั่งชั้นหนึ่งของสายการบินแห่งชาติของเรา การบินไทยนั่นเองค่ะ โบอิ้ง 747-400 กรุงเทพ-ซิดนี่ย์ค่ะ คงยังไม่ตกเทรนด์มากนักหลังจากที่เจ้าจัมโบ้ 747 ตกเป็นข่าวดราม่าระหว่างนักบินกับผู้โดยสารเมื่อไม่นานมานี้ อิอิ ออกตัวก่อนว่าฟู้ดสเปซนั่งชั้นหนึ่งคราวนี้แลกไมล์ไปนะคะ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะจ่ายตังเองราคาเต็มคงมิสามารถตัดใจทำได้ค่ะ มารีวิวให้ดูกันค่ะ
I went to Sydney from Bangkok in May 2018 with Thai Airways Boeing 747-400 and want to share my extraordinary experience with you guys. I checked airfare with several airlines that offer direct flight from Bangkok to Sydney and ended up decided to max out my mileage to redeem this ticket and pay only the tax of approximately US$100 only. It was a really good deal, but I spent more than 100,000 miles from all the sources I have though. I flew Business class (Royal Silk) of Thai Airways several times but never once their Royal First. Let me show you how did it go …
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2561 ฟู้ดสเปซไปเที่ยวประเทศออสเตรเลียกับเพื่อนค่ะ เราก็เลยมาดูว่าสายการบินไหนดีและประหยัดเงินได้มากสุด ที่บินตรง กทม-ซิดนี่ย์ ก็มีการบินไทย, แควนตัส, เอมมิเรทส์ ราคาที่นั่งชั้นประหยัดแบบไป-กลับของทุกสายการบินก็อยู่ที่คนละสองหมื่นกว่าบาท ชั้นธุรกิจไปกลับเริ่มที่เก้าหมื่นบาท ชั้นหนึ่งไปกลับเริ่มที่แสนปลายๆบาทและแน่นอนว่าการบินไทยแพงกว่าเพื่อนๆเขาอยู่แล้ว (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะทำตัวเองให้สู้กับชาวบ้านเขาได้ซักที) พอเช็คไมล์สะสมจากทั้งเวลาบินจริงผสมกับแต้มบัตรเครดิตต่างๆก็มาได้ความว่าเรามีไมล์พอที่จะแลกที่นั่งชั้นหนึ่งของการบินไทยได้โดยเสียภาษีและค่าน้ำมันแค่สามพันกว่าบาท (โดนแลกไมล์ไปแสนกว่าไมล์นะคะ) แม้จะเคยนั่งชั้นธุรกิจของการบินไทยและสายการบินอื่นๆมาแล้วหลายครั้ง แต่เกิดมาก็ไม่เคยนั่งเครื่องบินชั้นหนึ่งเลยค่ะ ไปให้รางวัลกับชีวิตเราจากหยาดเหงื่อแรงงานของเราเองบ้างก็น่าจะดี ไม่ต้องรอใครหรือรออะไรแล้ว เมื่อพร้อมก็จัดไปเลยค่ะ เดินหน้าแลกไมล์หมดแม๊กซ์จองที่นั่งชั้นหนึ่งของการบินไทย เครื่องบินโบอิ้ง 747-400N เส้นทาง กทม – ซิดนี่ย์ค่ะ มาดูนะคะว่าความ “ชั้นหนึ่ง” ของการบินไทยทั้งการบริการและที่นั่งจะดีเลิศสะแมนแตนซักเพียงใด
]
เริ่มต้นที่การเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารชั้นหนึ่งของการบินไทยก็มี porter เป็นของตัวเองลงรถปุ๊บมาช่วยยกกระเป๋าปั๊บ มีโซนเช็คอินชั้นหนึ่งเป็นของตัวเอง นั่งรอที่โซฟาสวยๆมีน้ำมาเสริฟ มีเจ้าหน้าที่เอาพาสปอร์ตไปเช็คที่เค้าเตอร์ให้ เราแทบไม่ได้กระดิกตัว (แต่ใช้ช่องตรวจคนเข้าเมืองรวมกับชั้นธุรกิจนะคะซึ่งก็สะดวกสบายดีคนไม่ได้เยอะอะไร)
Starting the Royal First experience at the Bangkok Suvarnabhumi airport where I had TG porter help me with my luggage from the moment I got of my car. Check in was so privilege as I was invited to seat and TG staff took my passport to check in for me while I comfortably sipped icy cold drink at the sofa. The First-class passengers shared the express immigration channel specially arranged for Thai airways with their Business class passengers though. It was fine and fast. (It’s not the same one as Premium Lane behind those Thai giant statues).
บันไดเลื่อนหลังผ่าน ตม.ลงตรงไปที่ห้องรับรองค่ะ Escalator durectly down to the lounge
ความพิเศษของชั้นหนึ่งคือมีห้องพักรับรองเป็นของตัวเองแบบที่ลงบันไดเลื่อนจาก ตม. มาเท้าไม่ติดพื้นค่ะมีรถกอล์ฟขับพาปรู้ดไปเล้าจ์ไปห้องนวดตามแต่ใจเรา อันนี้รู้สึก VIP จริงจังค่ะ เอื้องหลวงสปาของการบินไทยมีบริการนวดอโรม่าฟรี 1ชั่วโมงสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งเท่านั้น ตอนเช็คอินก็ให้เจ้าหน้าที่เค้าโทรจองให้ได้เลยค่ะ ถ้าเป็นชั้นธุรกิจก็เลือกเป็นนวดเท้า 30 นาทีอะไรเบาๆไปได้นะคะ แนะนำว่าถ้าได้บินชั้นหนึ่งควรมาเช็คอินก่อนเวลาเครื่องออกซัก 2.5-3 ชั่วโมงนะคะ จะได้ใช้บริการตามสิทธิของเราให้เต็มที่ค่ะ
After immigration, the next privilege for Royal First passenger was the Royal Orchid spa. I was escorted like a VIP by a golf cart right from the escalator to the spa where I had my one full hour aromatic body massage. I asked the staff to book it for me at the check in lounge. Business class passengers can also enjoy their 30 minutes foot massage.
เป็นคนพิเศษนี่เท้าไม่ติดพื้นนะคะ มีรถรับส่งเหาะไปเหาะมาในสนามบิน สะดวกสบายมากค่ะ private ride to the spa สบายจังตังอยู่ครบ
ห้องนวดอโรม่า(นวดน้ำมัน)ของเอื้องหลวงสปา บริการดีมากค่ะสุภาพเว่อร์ๆ นวดเสร็จแล้วสบายตัวสุดๆ The Royal Orchid Spa
ห้องรับรองของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง การบินไทยค่ะ Royal First Lounge
ห้องรับรองชั้น 1 ต้องกินผัดไทยกุ้งสดที่ทำแบบ a la carte ค่ะ เพราะมีที่ห้องรับรองชั้นหนึ่งเท่านั้น เราเลือกให้เสริฟคู่มากับแชมเปญโมเอ้แอ่นด์ชองดองยี่ห้อที่เราชอบ ทานไปอย่างละนิดละหน่อยค่ะ เก็บท้องไว้รับแชมเปญดอมเปริยงบนเครื่องต่อไป
After relaxing in the spa for an hour, I rested a bit at the Royal First lounge and ordered my PhadThai with Shrimps accompanied by a glass of my favorite Moet & Chandon champagne. I saved my tummy’s space a bit to enjoy the First-class meals and the Dom Perignon Champagne on board. I would really like to recommend that you to arrive at the airport 2.5-3 hours before your flight so that you could take your time to enjoy all these privileges.
วีดีโอรีวิวก็มี 3 นาทีเห็นบนเครื่องครบค่ะ
Click for Video review YouTube by @FoodSpace VDO Review First Class Thai Airways by @FoodSpace
พอนวดเสร็จ กินผัดไทยกุ้งเสร็จก็ไปขึ้นเครื่องค่ะ 747-N เป็นเครื่องเก่าแต่ว่าเบาะที่นั่งปรับโฉมมาแล้วคือเป็นห้องกึ่งส่วนตัวค่ะ เบาเอนยาวนอนราบได้ จอส่วนตัวใหญ่สบายตา เราเลือกที่นั่ง 1K เพราะ 1A มันไม่ว่างแล้ว อิอิ คนเเค้าแย่งกันนั่ง 1A กันนะคะเพราะเป็นที่นั่ง VIP แต่เอาจริงๆคือเรานั่งอะไรก็ได้ขอความสบาย เป็นส่วนตัว มีหน้าต่างมองวิวยามเบื่อได้ ยังไงก็ชั้นหนึ่งเหมือนกันค่ะ
เอาแล้วๆ เดินขึ้นเครื่องบินก็เลี้ยวซ้ายไปโซนที่นั่งชั้น 1 เลยค่ะ มีแค่ประมาณ 10 ที่นั่ง ห้องโดยสารตกแต่งสวยงามด้วยโทนสีม่วง-ครีมออกเหลือง น้องแอร์มาต้อนรับเป็นอย่างดี พาไปนั่ง แล้วแนะนำตัวอย่างสุภาพเรียบร้อยและยิ้มแย้ม จำชื่อผู้โดยสารชั้นหนึ่งได้ทุกคน (ก็มีแค่สิบคน)
Here we go, Royal First of Thai Airways. I was welcomed by a sweet and smiley air stewardess who escorted me to my 1K seat and in no time offered me a cold glass of Dom Perignon as the welcome drink. Later on, I realised that she remembered all the passengers’ names!
แชมเปญเย็นๆ เติมตลอดๆค่ะ ป้าชอบมาก Nice Snacks and Champange
หูฟังและของจุ๊กจิ๊กที่แจกมาในกระเป๋าริโมว่าของชั้นหนึ่งค่ะ Amenities and the cute Rimowa bag
ที่นั่งชั้นหนึ่งการบินไทย โบอิ้ง747-N ค่ะ กว้างขวางมาก ระยะห่างระหว่างเก้าอี้กับที่วางขากว้างมาก ถ้าเป็นเบาะรุ่นเก่าคนเขาถึงมานั่งรวมทานข้าว 2 คนที่โซนเดียวกันได้แบบคนนึงนั่งเก้าอี้อีกคนนั่งตรงที่วางขา The First-class seat of Thai Airways Boeing 747 was enormously spacy.
พอเก็บของเสร็จนั่งเรียบร้อย แชมเปญดอมเปริยง ก็ลอยมาก่อนเลยค่ะหนึ่งแก้ว เราขอรับกับถั่วผสมจากฝั่งชั้นธุรกิจด้วย น้องเขาก็จัดการให้ค่ะแล้วยังเอาของทานกรุบกริบของชั้นหนึ่งและน้ำแร่มาเพิ่มให้อีก เราบอกน้องแอร์ไปว่าแชมเปญนี่เติมมาได้เรื่อยๆนะคะ น้องก็ยิ้มแย้มบอกว่าได้เลยค่ะ น่ารักมาก บริการดีจริงๆค่ะ
พอเครื่องจะขึ้นน้องแอร์ก็มาเก็บแก้วเครื่องดื่มต้อนรับ เมื่อเครื่องขึ้นไปไต่ระดับได้ที่แล้วก็มาทวนเรื่องอาหาร เที่ยวบินนี้ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง จะมีการเสริฟอาหาร 2 มื้อคือมื้อค่ำหลังเครื่องออก และมื้อเช้าก่อนเครื่องจะลงค่ะ
Just about taking off, the air steward offered another round of welcome champagne. When the plane took off and was at the right attitude, she came back and outlined the service on this flights for me including 2 full meals across the 9-hour flights. Then in no time, dinner was served and we started with nice caviar.
สำหรับมื้อค่ำก็มีอาหารเรียกน้ำย่อยเป็นไข่ปลาคาเวียร์คนละหนึ่งกระปุกเล็กๆพร้อมเครื่องเคียงครบครัน ทั้งไข่ทั้งหอมใหญ่ ครีม ฯลฯ ทานคู่กับแชมเปญเย็นๆนี่มันสวรรค์มากๆ ถูกใจฟู้ดสเปซเป็นที่สุดค่ะ Each 1st-class passenger got one set of caviar for ourselves - no sharing today my dear! It came with all side dishes you could imagine.
ส่วนอาหารจานหลักเราได้สั่งกุ้งล๊อบสเตอร์อบชีสไว้ก่อนขึ้นเครื่องแล้วค่ะ พอไข่ปลาคาเวียร์หมด น้องแอร์ก็เอาล๊อปสเตอร์เทอร์มิดอร์มาเสริฟ ของหวานนี่เว่อร์วังละเมียดละไมจริงๆค่ะ เป็นขนมไทยๆอร่อยดีค่ะ I pre-ordered a Lobster termidor for my main dish and it was served nicely!
ดูหนังดูทีวีไปจิบแชมเปญไปเรื่อยๆ แล้วถึงเวลาน้องแอร์ก็มาปูเตียงให้นอนเหยียดยาวๆค่ะ สบ๊ายสบาย After meal, it's flat bed time :-) The air stewardess came to set up my bed very quickly and very professional.
After a comfy sleep, I woke up with this full-scale breakfast ตื่นมาก็รับอาหารเช้าค่ะ เต็มยศมากๆ ไข่เบเนดิกส์นี่ถือว่าดีงามอร่อยเลยนะคะ ทานเรียบค่ะ
ก่อนเครื่องจะลงเราไปห้องน้ำเสริมความงาม กลับมาที่เก้าแก็มีใบตม.พร้อมปากกามาวางเตรียมให้เรียบร้อย สวยงาม Before landing, the air stewardess nicely set up my seat, offered me the immigration form with express track card and a TG pen.
สิริรวม บริการนี่ให้ 10 เต็ม 10 เลยนะคะ ดีมากจนบางทีงงว่าดีมากไปไหม 55 สภาพเครื่องบินและเก้าอี้นั่งให้ 9 เต็ม10 เพราะแม้จะสบายมากแต่เก่ามาก บางจุดถลอกและขาดแล้ว Entertainment on board ยังถือว่าไม่สะนักใจค่ะถ้าเทียบกับสายการบินแขกแล้ว แถมเครื่องบินตอนขึ้นนี่ได้ยินเสียงตัวเครื่องสั่นผับๆเลยค่ะ เรื่องราคาให้ 2เต็ม10ค่ะ ถ้าให้จ่ายเองถือว่าแพงมาก บินขาเดียวแสนกว่าบาท ถ้าไปกลับเกือบ 2แสนบาท แล้วได้รับสิ่งเหล่านี้ คิดว่าแพงไปค่ะ แต่เบาะนอนราบสบาย บริการไม่สุภาพพินอบพิเทาไม่ยิ้มแย้มเท่า แต่ก็ไม่ได้แย่นะคะ แชมเปญเค้าก็ยี่ห้อที่เราชอบ อาหารก็อร่อยได้อยู่ สรุปคือชั้นหนึ่งการบินไทยดีมาก แต่ถ้าให้ซื้อเองในราคาปกติตามเวบไซท์ ไม่ซื้อแน่นอนค่ะ ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือน ความคุ้มค่าของการจ่ายเงินแสนกว่าบาทบินไปกลับ 9-10ชั่วโมง เราจะเลือกนั่ง Business class 380 ของสายการบินแขกที่บินตรงเหมือนกันแต่ถูกกว่ากัน 30-40% ไป-กลับราคาคนละไม่ถึงหนึ่งแสนบาท ถูกกว่ากับเกือบครึ่ง ได้นอนราบเหมือนกัน มี Sky Bar บนเครื่องให้เดินเล่นกิน cocktail ได้อีกต่างหาก แต่สิ่งที่หายไปเมื่อเทียบกับชั้นหนึ่งการบินไทยคือคือ นวดฟรี 1ชั่วโมงที่สนามบินสุวรรณภูมิ, ไข่ปลาคาเวียร์คนละกระปุก, ล๊อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ และแชมเปญจะถูกเปลี่ยนมาเป็นระดับโมเอ้แอ่นด์ชองดองหรือเวิร์บแทน ซึ่งสำหรับเราแล้วมันก็ถือว่าดีมากแล้วค่ะ คราวนี้บินแลกไมล์เก็บประสบการณ์จ่ายตังไปไม่กี่พันบาทจึงถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ
Overall, it was an extremely excellent experience. I score the Thai airways service 10 out of 10, just flawless! I score the airplane and seating at 9/10 because though it's nice and spacious but rather old. In terms of value for money, if I had to pay for the full price, it's diffinitely way over my middle-class wallet budget. A flat-bed business class with TG or with other airline would offer similar comfort but a little less luxury but surely will be realistically considered. This trip, I used my mileage and paid only the tax, so, it was the best deal and I was very much satisfied.